วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ประวัติคอมพิวเตอร์




Charles Babbage



        คงจะเป็นการดีที่จะกล่าวถึงที่มาหรือต้นตระกูลของเครื่องคอมพิวเตอร์ว่าเป็นมาอย่างไร เพื่อที่จะทำให้เราเข้าใคอมพิวเตอร์มากขึ้น คอมพิวเตอร์มีวิวัฒนาการมาจากนิ้วมือมนุษย์ ที่ใช้นิ้วในการนับตัวเลข ใช้ไม้ขีดเขียนบนพื้นดิน หรือใช้ลูกหินมาเรียงต่อกัน ต่อมาได้มีการพัฒนาขึ้นด้วยการใช้เชือกรอยต่อกัน จัดเรียงให้เป็นระบบ (คล้ายกับลูกคิด) หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาเครื่องมือต่างๆ ขึ้นมาเพื่อใช้ในการนับ ลักษณะใหญ่ที่คิดกันมักจะเป็นเครื่องยนต์ที่มีกลไก(Mechanics) ที่ประกอบด้วยฟันเฟื่อง รอกและคาน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่กึ่งอัตโนมัติ ที่สามารถคำนวณขั้นพื้นฐานได้ ไม่ว่าจะเป็น บวก ลบ คูณ หาร


    ปี 1822 ชาลส์ แบบเบจ (Charles Babbage) ได้ทำการออกแบบเครื่อง Difference Engine โดยได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาล แต่เครื่อง Difference Engine นี้สร้างไม่เสร็จ เพราะแบบเบจได้ค้นพบความไม่น่าเชื่อถือบางประการในการคำนวณ จึงล้มเลิก และไปคิดเครื่องใหม่ที่ชื่อว่า Analytical Engine ซึ่งประกอบด้วยหน่วยความจำ (Memory Unit) ที่สามารถจัดเก็บตัวเลขและนำไปคำนวณได้


  ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องดังกล่าวยังสามารถพิมพ์ข้อมูลได้อัตโนมัติ สามารถนำเข้าข้อมูลด้วยบัตรเจาะรู (Punched Cards) และใช้ชุดคำสั่งในการควบคุม เครื่อง Analytical Engine นี้ยังมีฟังก์ชั่นหน้าที่หลายอย่างเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบัน ทำให้ ชาลส์ แบบเบจ (Charles Babbage) ถูกขนานนามให้เป็นบิดาแห่งคอมพิวเตอร์ เป็นต้นมา


Lady  Augusta Ada Byron




     เธอเป็นสตีคนสำคัญที่ช่วยออกเเบบเบจ อีกทั้งได้เสนอเเนวคิดเเละเป็นผู้ที่เขียนโปรเเกรมชิ้นเเรกที่ใช้กับเครื่องดังกล่าว  ต่อมาเธอได้ถูกขนานนามให้เป็น โปรเเกรมเมอร์คนเเรกของโลก นอกจากนี้เธอได้ตั่งชื่อภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาหนึ่งด้วยการใช้ชื่อของเธอ นั่นก็คือ ภาษาเอด้า { Ada }เอดาก็ช่วยเขียนบรรยาย รายละเอียดการทำงานของเครื่องวิเคราะห์ แต่สุขภาพของเธอก็เริ่มมีปัญหา และสุดท้ายก็เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 37 ปี

Herman Hollerith




       ใน 1,884 Hollerith ใช้สำหรับสิทธิบัตรครั้งแรกของเขา (เขาจะได้รับมากกว่า 30 สิทธิบัตรจากสหรัฐอเมริกาในอาชีพและสิทธิบัตรต่างประเทศจำนวนมากของเขา). เขาพัฒนางานต้นเขาทำที่ Massachusetts Institute of Technology ในวิธีการแปลงข้อมูลในบัตร punched ลง impulses ไฟฟ้า. Impulses เหล่านี้ในการเปิดจะเปิดเคาน์เตอร์เครื่องกล. เขาใช้ที่ชกมวยครั้งแรกที่ใช้สำหรับตั๋วบนรถไฟเพื่อให้หลุมใน cards. นี้พบว่าระบบทำงานแต่ตั้งแต่ชกมวยเท่านั้นทำให้หลุมใกล้ขอบของบัตรได้เต็มศักยภาพที่ไม่ถูกใช้
Hollerith ออกแบบ punches ทำพิเศษสำหรับระบบของเขา Hollerith ระบบไฟฟ้าทำเป็นตาราง. เขายังปรับปรุงเครื่องที่อ่านการ์ด. วิศวกรรมการพัฒนาปรับปรุงความถูกต้องของ pin จะผ่านหลุมในบัตรเพื่อให้การเชื่อมต่อไฟฟ้าด้วยปรอทไว้ใต้. ทำให้ไฟฟ้าปัจจุบันเปิดเคาน์เตอร์เครื่องกลและปริมาณของข้อมูลที่สามารถจัดการในแต่ละบัตรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.
Hollerith ของระบบทดสอบแรกในการทำเป็นตารางสถิติการตายใน Baltimore, New Jersey ใน 1,887 และอีกครั้งใน New York City. ระบบบัตรนี้ได้ใน punched ใช้เวลา 1,890 สำมะโนประชากรสหรัฐอเมริกาแต่ไม่ระบบเท่านั้นที่จะพิจารณาเพื่อใช้กับสำมะโนประชากร. ได้รับรางวัล convincingly ในการแข่งขันมีสองระบบอื่นๆพิจารณา 1,890 สำมะโนประชากรแสดงว่าสามารถจัดการข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว.

Alan Turing



   

  ปี ค.ศ. 1946 ทัวริงก็พบว่าเป็นงานคนละแนวคิดกัน ทางอเมริกาเน้นด้านอิเลกทรอนิกส์ แต่ทัวริงคิดแบบคณิตศาสตร์ ("I would like to implement arithmetical functions by programming rather than by building in electronic components, a concept different from that of the American-derived designs). โครงการตอนนั้นของทัวริง คือเครื่องคำนวณ (computation machine) ที่สามารถเปลี่ยนได้ตามใจชอบจาก numerical work เป็น algebra เป็น code breaking เป็น file handling หรือแม้กระทั่งเกมส์. ปี ค.ศ. 1947 ทัวริงเสนอว่า ต้องมีระบบจัดเก็บข้อมูล และ ชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ต้องขยายตัวเองออกเป็น ชุดคำสั่งย่อย ๆ ได้ โดยการใช้รูปย่อแบบ รหัสย่อ (คำสั่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของภาษาโปรแกรม) แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับการสนันสนุน

 Konrad Zuse




      Zuse เสร็จเครื่องใน 1,938. มันเป็นกลทั้งหมดมีหน่วยคำนวณประกอบด้วยจำนวนมากสวิตช์เครื่องกลและหน่วยความจำประกอบด้วยชั้นของแถบโลหะระหว่างชั้นของกระจก. หนึ่งในคุณสมบัติใหม่ที่สุดของมันแล้วว่าจะเป็นโปรแกรมโดยเทป punched. เหตุผลหลักว่าทำไม Zuse ประสบความสำเร็จในการสร้างคอมพิวเตอร์กลของเขาที่ Babbage ได้ล้มเหลวคือความจริงที่ Z1 Zuse ของเป็นเครื่อง binary สองตำแหน่งสวิทช์เพื่อแสดง 0 และ 1. แต่กล่าว Zuse ที่ประสบความสำเร็จกับ Z1 เป็นบิตของการพูดเกินจริงสำหรับเครื่องไม่ได้ดี. หน่วยความจำที่มีคุณสมบัติสำเร็จวิธีการที่คำสั่งถูกส่งผ่านเชื่อมโยงกลไม่สำเร็จ.

Prof.Howard H.Aiken




         Howard Aiken ศึกษาที่ University of Wisconsin, Madison ได้รับปริญญาเอกจาก Harvard ใน 1,939. ขณะที่เขาเป็นนักศึกษาบัณฑิตแอาจารย์ในภาควิชาฟิสิกส์ที่ Harvard Aiken เริ่มวางแผนการสร้าง         คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่. แผนการนี้ดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการวิจัยของ Aiken ได้นำไปสู่ระบบของ สมการความแตกต่างซึ่งไม่ตรงกันและวิธีที่สามารถแก้ไขเพียงการใช้เทคนิคเชิงตัวเลข. แต่ปริมาณการคำนวณมือที่เกี่ยวข้องจะถูกเกือบซึ่งห้ามดังนั้นความคิดของ Aikenเพื่อใช้การปรับตัวของ punched เครื่องบัตรที่ได้รับการพัฒนาโดยHollerith.

Dr.John v. Atanasoff & Clifford Berry




      Dr.Jobn Vincent Atansoff , Clifford Berry พ.ศ.2480-2481 ดร.จอห์น วินเซนต์ อตานาซอฟ ( Dr.Jobn Vincent Atansoff) และ คลิฟฟอร์ด แบรี่ ( Clifford Berry) ได้ประดิษฐ์เครื่อง ABC ( Atanasoff-Berry) ขึ้น โดยได้นำหลอดสุญญากาศมาใช้งาน ABC ถือเป็นเครื่องคำนวณเครื่องแรกที่เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์

Dr.John W.Mauchly & J. Presper Eckert




        จอห์น ดับลิว มอชลีย์ (John W. Mauchly) และ เจ เพรสเพอร์ เอคเกิรต (J. Prespern Eckert) ได้รับทุนอุดหนุนจากกองทัพสหรัฐอเมริกา ในการสร้างเครื่องคำนวณ ENIAC เมื่อปี 1946 นับว่าเป็น "เครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกของโลก หรือคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก"
  ในปี 1946 Maurice Wilkes ที่มหาวิทยาลัย Cambridge ได้มาเยี่ยมชมที่ Moore School และเข้าร่วมรับฟังชุดการบรรยายเรื่องการพัฒนาของอีเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์ เมื่อ Maurice ได้กลับมาที่ Cambridge Wilkes ได้ตัดสินใจที่จะสร้างคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า EDSAC (Electronic Delay Storage Automatic Calculator) ในปี 1949 เครื่อง EDSAC เริ่มใช้งานได้ และเป็นคอมพิวเตอร์ ที่สมบูรณ์แบบในลักษณะที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เต็มรูปแบบที่ทำงานได้ และมีการทำงานแบบ Store-Program

Dr.John Von Neumann

File:JohnvonNeumann-LosAlamos.jpg



                ระหว่างปี ค.ศ. 1926 ถึง 1930 เขาทำงานเป็น "อาจารย์อิสระ" ("Privatdozent" เป็นตำแหน่งในระบบมหาวิทยาลัยยุโรป สำหรับผู้ที่ต้องการจะเป็นศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย ตำแหน่งนี้ไม่มีเงินเดือนประจำ) โดยในขณะนั้นเขาเป็นอาจารย์อิสระที่อายุน้อยที่สุดมหาวิทยาลัยเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีในปี ค.ศ. 1930 นอยมันน์ได้รับเชิญให้ไปยังเมืองพรินซ์ตัน, รัฐนิวเจอร์ซีย์ และได้เป็นหนึ่งในหกบุคคล (J. W. Alexander, อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์, Marston Morse, Oswald Veblen, จอห์น ฟอน นอยมันน์ และ Hermann Weyl) ที่ถูกคัดเลือกเพื่อเป็นอาจารย์ประจำชุดแรกของ Institute for Advanced Study เขาเป็นศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ที่นั่น ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสาขาวิชาในปี ค.ศ. 1933 จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตเขา.

Dr.Ted Hoff




         นักออกแบบวงจร แห่งบริษัทอินเทล (Intel Corporation) ได้พัฒนาชิพที่มีขนาดเล็กมาก จึงได้ชื่อว่าไมโครโพรเซสเซอร์
 ชื่อรุ่นคือ Intel 4004 เป็นหน่วยประมวลผลขนาดเล็กที่สามารถโปรแกรมได้ คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิพขนาดเล็กนี้เจึงถูกรียกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ด้วย

Steve Jobs & Steve Wazniak

      ปี 1970 วอซเนียกได้รู้จักกับสตีฟ จ๊อบส์ เนื่องจากมีงานฤดูร้อนในธุรกิจเดียวกัน และกลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด จ๊อบส์และวอซเนียกได้ขายทรัพย์สินบางส่วนได้เงินประมาณ 1,300 เหรียญ และได้ร่วมกันประกอบคอมพิวเตอร์ต้นแบบซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของแอปเปิ้ล    ปี 1980 แอปเปิ้ลเป็นที่โด่งดังและทำให้จ๊อบส์และวอซเนียกกลายเป็นมหาเศรษฐี โดยสตีฟ จ๊อบส์ได้อนุญาตที่จะให้พนักงานบางส่วนของได้ซื้อหุ้นของ Apple ดั้งนั้นวอซเนียกจึงตัดสินใจที่จะแบ่งหุ้นส่วนหนึ่งขายไป         ปี 1983 เขาตัดสินใจ
กลับไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับแอปเปิ้ล แต่เขาไม่ต้องการบทบาทในบริษัทฯมากไปกว่าของวิศวกรคอมพิวเตอร์

Bill Gates

File:Bill Gates in WEF ,2007.jpg


               
      บิล เกตส์ เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน และหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ เขากับผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลคนอื่น ๆ ได้ร่วมกันเขียนต้นแบบของภาษาอัลแตร์เบสซึ่งเป็นอินเตอร์เพรเตอร์สำหรับเครื่องอัลแตร์ 8800 (เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในยุคแรกๆ) เขาได้ร่วมกับพอล แอลเลน ก่อตั้งไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชันขึ้น ซึ่งในขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร และหัวหน้าสถาปนิกซอฟต์แวร์ นิตยสารฟอบส์ได้จัดอันดับให้ บิล เกตส์ เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น