"" ยินดีต้อนรับ ""
เมื่อพูดถึง "พังงา" นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติส่วนใหญ่มักจะรู้จักจังหวัดนี้
ในแง่มุมของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอันลือชื่อ ไม่ว่าจะเป็น หมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลัน ทะเลเขาหลัก หรืออ่าวพังงา แต่หากได้ทำความรู้จักกับพังงาอย่างลึกซึ้ง ก็จะรู้ว่าพังงาไม่ได้มีดีเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลเท่านั้น แต่พังงายังมีสถานที่เที่ยวทางบก(บนฝั่ง)ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ทั้งภูเขา น้ำตก
ป่าไพร รวมถึงถ้ำที่มีความน่าสนใจในระดับอันซีนไทยแลนด์ อย่าง "ถ้ำพุงช้าง"
"ผู้ค้นพบถ้ำพุงช้างครับ"
ตำนาน เล่าว่า ตายมดึงผู้ร่อนเร่พเนจรได้ขออาศัยอยู่กับ ตาโจงโดง ตายมดึงเป็นคนขยัน ตาโจงโดง จึงยกลูกสาวชื่อนางทองตึง ให้เป็นภรรยา สองสามีภรรยาจึงออกมาตั้งเนื้อตั้งด้วยการทำสวนทำไร่ แต่ขณะไร่นาได้ผลกลับมีช้างป่าโขลงหนึ่ง มาเหยียบย่ำทำลายหมด ตายมดึงเสียดายและโกรธมาก จึงถือหอกเป็นอาวุธตามล่าช้างโขลงนั้น แต่ ตายมดึงกลับไปเจอช้างของตางุ้ม ตายมดึงเข้าใจว่าเป็นช้างป่าที่มากินพืชผลของตน จึงฆ่าช้างเชือกนั้นตาย โดยการใช้หอกทะลวงแทงที่ท้อง ลากตับไตไส้พุงเอามาทำอาหารกินและตัดงาออกด้วย ช้างที่ไร้ความผิดนั้นตาย แต่ด้วยอนุภาพของความดีของช้างเชือกนั้น จึงกลายมาเป็น "เขาช้าง" โดยนัยว่าจะประท้วงคนที่ฆ่า เพื่อบอกให้รู้ว่าตนเองนั้นไม่ผิดและรูที่ถูกหอกทะลวงแทงที่ท้องช้างตางุ้ม ก็กลายเป็น "ถ้ำพุงช้าง" ส่วนงาของช้างตางุ้ม ที่ถูกตายมดึงตัดไปนั้น ถูกนำไปพิงไว้ที่ "เขาพิงกัน "ส่วน ตางุ้ม เจ้าของช้างที่ไร้ความผิดว่ากันว่าเป็นเจ้าของช้างเมื่อช้างของตนหายไปก็ออกตามหา และมาพบว่าช้างตนถูกตายมดึงฆ่าตายแล้ว ตางุ้มก็นั่งตรอมใจร้องไห้จนตายกลายเป็น "เขาตางุ้ม" ใกล้ ๆ กับซากช้างนั่นเอง อยู่ห่างจากเขาช้างประมาณ 1 ก.ม.
รูปปั้นเหมือน "ตายมดึง" พร้อมอาวุธคู่กายที่ฆ่าช้างตางุ้ม
อาถรรพ์!!! ของเขาช้างที่เกี่ยวพันกับงาช้างคู่ที่วางไว้ในห้องทำงานผู้ว่าฯไว้ว่า
ปี 2506 เวลา 06.00 น. ขณะนั้นการทำเหมืองแร่ดีบุกในจังหวัดพังงาโดยเรือขุดนั้นยังมีอยู่ และทุกเช้าเวลาดังกล่าวเรือขุดแร่ดีบุกจะเปิดโหวดเพื่อให้คนงานเตรียมตัวลงทำงาน เช้าวันนั้นระหว่างที่เรือขุดเปิดโหวดอยู่นั้น ก็ปรากฏว่าหินจากภูเขาช้างก็ถล่มลงมาที่ปากถ้ำพุงช้างจำนวน เกือบ 10ก้อน ก้อนหนึ่งหนักประมาณ 50-60 กิโลกรัมจนเป็นที่แปลกใจของชาวบ้าน และ 2 ก้อนในจำนวน 10 ก้อนนั้นก็กระเด็นไกลมาถึงกอไม้ไผ่หลังจวนผู้ว่าฯซึ่งระยะห่างกันถึง 1กิโลเมตร จากอาถรรพ์ดังกล่าวนั้น ต่อมาทราบว่างาช้างคู่ที่ประดับอยู่ในห้องทำงานผู้ว่าฯถึงทุกวันนี้ แต่เดิมประดับอยู่ที่จวนผู้ว่าฯและว่ากันว่ามีข้าราชการระดับสูงขโมยเพื่อนำไปยังกรุงเทพฯ จึงได้เกิดเภทภัยขึ้น และขณะที่คนขโมยและคนขับรถเดินทางตามถนนเพชรเกษมไปถึงอำเภอตะกั่วป่า ก็ได้เกิดหมอกลงอย่างหนาแน่นจนไม่สามรถขับรถต่อไปได้ จึงคิดได้ว่าน่าจะเป็นเพราะงาช้างคู่นี้ จึงได้นำกลับมาไว้ยังที่เดิม แล้วทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติ ชาวบ้านชาวเมืองพังงาจึงเชื่อว่างาช้างคู่ดังกล่าวนี้เป็นงาช้างศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมือง
แล้ว มาเที่ยว ถ้ำพุงช้างกันนะคร้บ ^_^
ขอขอบภาพเเละข้อมูลจาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น